สถานที่ในการแข่งขัน ของ ดิอะเมซิ่งเรซ 15

เดินทางโดยเครื่องบิน; เดินทางโดยรถไฟ; เดินทางโดยเรือ; เดินทางโดยรถประจำทาง; ไม่มี = เดินทางโดยรถยนต์หรือเดิน
ทางแยก อุปสรรค ทางด่วน ย้อนกลับ งานเพิ่มเติม จุดหยุดพัก
แผนที่แสดงเส้นทาง

เลก 1 (สหรัฐอเมริกา → ญี่ปุ่น)

ที่โตเกียว ทีมจะต้องค้นหาสตูดิโอโทรทัศน์ ที่อยู่บริเวณฐานของหอคอยโตเกียว เพื่อเข้าร่วมแข่งขันเกมโชว์ญี่ปุ่น

อุปสรรคแรกในการแข่งขันครั้งนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องมาเล่นรูปแบบเกมโชว์ของญี่ปุ่นเรียกว่า "ซูชิรูเล็ต" เมื่อทีมที่แข่งขันทั้งหมดมาถึงสตูดิโอที่ตั้งของงานอุปสรรคแล้ว เจ้าของรายการจะหมุนวงล้อซึ่งมีทั้งหมด 11 แผ่น โดยแบ่งเป็นซูชิ 9 แผ่น และซูชิบอมบ์ (ซูชิประกอบด้วยข้าวโนริและวาซาบิจำนวนมาก) สมาชิกทีมจะต้องรับประทาน สิ่งที่อยู่บริเวณด้านหน้าของพวกเขาเมื่อวงล้อหยุด โดยถ้าเป็นซูชิบอมบ์จะให้เวลารับประทานหมดภายใน 2 นาทีเพื่อที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป โดยถ้าหากว่าพวกเขาไม่สามารถรับประทานซูชิบอมบ์ให้หมดภายใน 2 นาทีหรือได้รับประทานซูชิธรรมดา พวกเขาจะต้องรอคอยการหมุนรอบต่อไปของวงล้อ

ภารกิจเสริม
  • ที่จุดเริ่มต้นของรายการ ทีมแต่ละทีมจะต้องหาป้ายทะเบียนรถยนต์ หนึ่งในสิบเอ็ดแผ่นจากเมืองชินากาว่า เมืองโตเกียว ซึ่งจุดหมายปลายทางแรกที่พวกเขาจะต้องไปเยือนจากป้ายทะเบียนกว่า 1000 ป้ายทะเบียนรถ โดยที่ชื่อของปลายทางของพวกเขา (品川) จะได้รับอยู่ในคำใบ้แต่จะไม่ชัดเจน โดยทีมจะต้องนำแผ่นป้ายที่เลือกมาให้ฟิลที่จุดคัดออก และถ้าฟิลตรวจสอบแล้วถูกต้อง พวกเขาจะได้รับตั๋วเที่ยวบินไปโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (มี 2 เที่ยวบิน) และถ้าหากทีมหยิบมาไม่ถูกต้อง ฟิลจะบอกให้ไปหยิบมาใหม่ สุดท้ายแล้วทีมสุดท้ายที่ไม่สามารถหาป้ายทะเบียนเมืองชินากาวาได้ และไม่มีตั๋วเที่ยวบินจะถูกคัดออกทันที
  • หลังจากทำอุปสรรคเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับธงสี และจะต้องนำกลุ่มนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่อยู่ในห้องส่ง 20 คนที่สวมหมวกสีเดียวกันกับธงของพวกเขาไปยังจุดหยุดพัก (ที่ศาลเจ้าคอนโนฮาชิแมน) โดยที่จะผ่านถนนที่ชิบุยะ โดยทีมจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าจุดหยุดพัก ถ้าหากว่านักท่องเที่ยวทั้งหมด 20 คนมาไม่ครบที่จุดหยุดพัก

เลก 2 (ญี่ปุ่น → เวียดนาม)

สำหรับงานเพิ่มเติมในเลคที่2 นั้น มาเรียกับทิฟฟานี่จะต้องเสิร์ฟเฝอให้แก่เจ้าท่าเรือ

สำหรับงานเพิ่มเติมสำหรับมาเรียกับทิฟฟานี่นั้น พวกเธอจะต้องรวบรวมส่วนผสมสำหรับทำซุปของเวียดนามที่มีชื่อว่า "เฝอ" หรือ "ควัน ธัม เนียม คาราโอเกะ เกียดิน" และหานายท่าเรือเพื่อทำเฝอให้แก่เขาแก่ที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับงานอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องใช้ธงสองอันนำทางฝูงเป็ดกว่า 150 ตัวออกจากเล้า นำข้ามสะพานและย้อนกลับให้เข้ามาในเล้าอีกรอบภายใน 10 นาที ถ้าหากว่าสมาชิกไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ภายใน 10 นาที สมาชิกคนนั้นจะต้องละทิ้งและเริ่มใหม่อีกรอบ

ภารกิจเสริม
  • ที่ท่าเรือเบ๊นเต่าจูหลิจ ทีมจะต้องนั่งเรือพายไปยังสวนผลไม้บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ซึ่งที่นั้น ทีมจะต้องนำโคลนใส่ถัง แล้วสะสมเทลงไปที่ฐานของต้นผลไม้ จนกว่าจะถึงเชือกสีแดงที่บรรทัดกำหนดไว้ แล้วทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป

เลก 3 (เวียดนาม)

วังแห่งการรวมตัวใหม่ (Dinh Thống Nhất) เป็นสถานที่จุดหยุดพักที่ 4 ของการแข่งขัน
  • ไก๊แบ่ ไป หมี่ทอ
  • โฮจิมินห์ซิตี (โรงภาพยนตร์หุ่นกระบอกมังกรน้ำทอง [Nhà hát Múa rối nước Rồng Vàng])
  • โฮจิมินห์ซิตี (ที่ทำการไปรษณีย์โฮจิมินห์ซิติ้ [Bưu điện Thành phố Hồ Chí Minh]) (ไม่เปิดเผยภายในป้ายว่าใครสั่งยูเทิร์นและไม่ได้ออกอากาศ)
  • โฮจิมินห์ซิตี (ถนนไฟฟ้าหมายเลข 8)
  • โฮจิมินห์ซิตี (วังแห่งการรวมตัวใหม่)

เมื่อจบเลกที่ 2 แล้ว เรือบาสแซกจะออกเดินทางจากไก๊แบ่ไปยังหมี่โถ สำหรับทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง เด็กเล่น (Child's Play) และ เล่นคำ (Word Play) โดยทีมที่เลือกเด็กเล่น จะต้องหาร้านที่มีชื่อว่า Nhiep Anh Công viên Tao Đàn Kiosque Giao Anh ใน [[::vi::Công viên Tao Đàn|สวนสาธารณะกงเวียนตาวด่าน]] (เวียดนาม) เพื่อขนส่งรูปปั้นสัตว์ชนิดต่างๆ ไปยังสนามเด็กเล่น โดยเก็บลูกโป่งให้ครบทั้ง 5 สี (อันได้แก่ แดง ฟ้า ส้ม เขียว และเหลือง) เมื่อทีมนำรูปปั้นมาถึงและเข้าที่แล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกเล่นคำ จะต้องขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม แล้วสังเกตตัวอักษรภาษาเวียดนาม ทั้ง 6 ตัว ที่อยู่บริเวณยานพาหนะ ที่ขับเคลื่อนอยู่บริเวณวงเวียน Ngã sáu Cộng Hoà จากนั้นก็นำมาเรียงตัวอักษรให้กลายเป็นคำ ได้คำว่า "Độc Lập", ซึ่งแปลว่าอิสรภาพ ก่อนที่ทีมจะแลกคำใบ้จากพนักงานรักษาความปลอดภัยหน้าโรงแรม ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องจัดการทุบและดึงฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 เครื่องโดยใช้เครื่องมือที่ทางร้านมีให้เรียบร้อย ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • ที่โรงภาพยนตร์หุ่นกระบอกลอยน้ำมังกรทอง ทีมจะต้องคว้าธงที่มีซองคำใบ้สีเหลือง-ขาว จากปากของหุ่นกระบอกมังกรน้ำ
  • เบาะแสจากหุ่นกระบอกลอยน้ำมังกรทองที่มีแสตมป์อยู่ภายในกระสุน ทีมจะต้องรู้ได้ว่าแสตมป์แสดงถึงสถานที่ (ที่ทำการไปรษณีย์โฮจิมินห์ซิตี้) ซึ่งเป็นสถานที่ต่อไปที่ทีมจะไปต้องเยือน

เลก 4 (เวียดนาม → กัมพูชา)

วัดพนมกุเลน เป็นสถานที่จุดหยุดพักที่ 4 ของการแข่งขัน

สำหรับทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง ปกคลุม (Cover) และ ห่อหุ้ม (Wrap) โดยทีมที่เลือกปกคลุม จะต้องเดินทางไปยังร้านขายหมวกกันน็อคมอเตอร์ไซด์ ที่สัญลักษณ์เหลือง-แดงแปะอยู่ แล้วนำหมวกกันน็อค 4 อันไปให้แก่ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คน (ผู้ใหญ่ 2 คนและเด็ก 2 คน) เพื่อซื้อหมวกกันน็อคในราคา 10 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วนำเงินที่จ่ายมาไปแลกกับเจ้าของร้าน เพื่อรับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกห่อหุ้ม จะต้องเดินทางไปยังร้านค้าหมายเลข 980 & 981 ที่ตลาดรัสเซีย แล้วเจ้าของร้านก็จะมอบผ้าพันคอผ้าไหมให้ โดยทีมจะให้ผู้หญิงที่เดินอยู่ในตลาดที่สวมผ้าพันคอสีเดียวกัน แล้วพาเธอมายังที่ร้าน เพื่อแลกกับคำใบ้ต่อไป สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องแต่งกายเลียนแบบลิง โดยสวมใส่หน้ากากและหาง แล้วกระทำศิลปะการแสดงท้องถิ่นของลิงในการข้ามขอนไม้ทั้งหมด 3 อย่าง เพื่อให้ผู้ร่ายรำรู้สึกพอใจ แล้วมอบคำใบ้ต่อไปให้แก่ทีม

ภารกิจเสริม
  • ที่สำนักงานผู้สื่อข่าวต่างประเทศพนมเปญ ทีมจะต้องหาผู้สื่อข่าว 2 คนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ แล้วถามเขาว่า "May I have my next assignment?" แล้วพวกเขาก็จะมอบหนังสือพิมพ์ให้แก่ทีม ซึ่งคำใบ้ต่อไปจะซ่อนอยู่ในหนังสือพิมพ์นั่นเอง
  • คำใบ้ที่ได้รับมาจากสำนักงานผู้สื่อข่าวต่างประเทศพนมเปญนั้น จะเป็นรูปถ่ายขาวดำของพระบาทสมเด็จพระ นโรดม สีหนุและแจ๊กการีน แคนนาดี้ ที่เคยมาเยือนที่ประเทศกัมพูชาเมื่อปีค.ศ.1967 โดยทีมจะต้องนึกให้ออกว่าภาพดังกล่าวนั้น อยู่ในโรงแรมรัฟเฟิลหลวง ซึ่งทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากที่นั้น

เลก 5 (กัมพูชา → สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

สำหรับทางด่วนเพียงอันเดียวในการแข่งขัน ทีมที่จะทำทางด่วนจะต้องเดินทางไปยังที่สนามแข่งรถดูไบ เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นนักแข่งรถ แล้วให้สมาชิกคนหนึ่งขับรถแข่งรอบสนาม 1 รอบให้ถึงเส้นชัย ภายในเวลา 45 วินาทีหรือน้อยกว่านั้น เมื่อแข่งเสร็จแล้ว ทีมจะถือว่าชนะทางด่วน แล้วจะมีคนขับรถให้ไปยังจุดหยุดพัก สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเลือกกระเป๋าใส่น้ำท้องถิ่นค้นหาศูนย์อนุรักษ์ทะเลทราย เพื่อนำน้ำที่อยู่ในหม้อ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในทะเลทรายตักขึ้นมา ใส่กระติกน้ำให้เต็ม แล้วนำไปแลกเพื่อขอคำใบ้จากอาหรับในทะเลทรายและอูฐที่กระหายน้ำ แต่อย่างไรก็ตาม หม้อบางใบจะไม่มีน้ำอยู่ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องระหว่าง สร้างตุ๊กตาหิมะ (Build a Snowman) และ หาตุ๊กตาหิมะ (Find a Snowman) โดยทีมที่เลือกสร้างตุ๊กตาหิมะนั้น จะต้องนำหิมะใส่ในรถเข็น แล้วเข็นออกไปยังด้านนอกที่มีอุณหภูมิ 120 องศาฟาเรนไฮด์ (49 องศาเซลเซียส) เพื่อสร้างตุ๊กตาหิมะ แล้วเติมส่วนประกอบต่างๆ ให้ถูกต้องอันได้แก่ ตา จมูกแครอท และหมวก ก่อนที่หิมะจะละลายก่อน แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกหาตุ๊กตาหิมะ จะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้า ไปยังด้านบนสุดของลานสกี แล้วนำพลั่วมาลื่นลงมา จึงขุดค้นหาพวงกุญแจตุ๊กตาหิมะให้เจอ แล้วนำไปแลกคำใบ้ต่อไปกับตัวมาสคอตที่ใส่ชุดหมีขั้วโลก

ภารกิจเสริม
  • เมื่อทีมเดินทางมาถึงบริเวณน้ำพุดูไบ ที่อยู่บริเวณบูร์จคาลิฟาแล้ว ทีมจะต้องลงทะเบียนเซ็นชื่อลงในใบ เพื่อเข้าไปยังบูร์จคาลิฟาตอนเช้าต่อมา (มีอยู่ 2 เวลาคือ 5.30 น. และ 5.45 น.) เมื่อถึงเวลาที่กำหนดแล้วทีมจะต้องสวมหมวกนิรภัย แล้วขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นระเบียงบนตึกชั้น 120 ของตึกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งเป็นที่ที่มีกล่องคำใบ้วางอยู่
  • หลังจากได้รับซองคำใบ้ที่บูร์จคาลิฟาแล้ว ทีมจะต้องเดินทางไปยังที่จอดรถชั้น 2 ที่ห้างสรรพสินค้าดูไบ ซึ่งทีมจะต้องขับรถที่มีสัญลักษณ์เหลือง-แดงแปะอยู่ ไปยังสถานที่ที่ทำอุปสรรคหรือทางด่วน

เลก 6 (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

สำหรับทีมที่เลือกแก้วในทางแยกนั้น ทีมจะต้องเรียงต่อส่วนประกอบของชิชา จำนวน 12 อัน ซึ่งอันที่ได้เห็นนั้น อยู่ที่ตลาดของเอเคอร์, อิสราเอล

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเลือกเรือยางที่อยู่บนบก แล้วพายเรือยางไปตามน้ำ ไปยังเรือที่แล่นอยู่ในน้ำ จากนั้นทีมจะได้รับนาฬิกาข้อมือมาจากชาวอาหรับที่อยู่บนเรือ แล้วสมาชิกจะต้องพายเรือกลับขึ้นมาบนฝั่ง แล้วไขรหัสเลข 3 หลักบนกระเป๋าที่ได้รับมาในตอนแรก จากเวลาบนนาฬิกา (รหัสที่ถูกต้องคือ 835) แล้วไขได้แล้ว คำใบ้ต่อไปก็จะอยู่ในกระเป๋า ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างทอง (Gold) และแก้ว (Glass) โดยทีมที่เลือกทอง จะต้องเดินทางไปยังร้านขายทอง แล้วใช้เครื่องชั่ง ชั่งทองให้ได้มูลค่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทีมจะต้องสังเกตราคาทองต่อกรัมบนจอโทรทัศน์ ซึ่งราคาทองคำจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามราคาตลาดโลก โดยทีมจะต้องทำงานให้เสร็จก่อนที่ราคาทองคำจะเปลี่ยนแปลง แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้าน ส่วนทีมที่เลือกแก้ว จะต้องเดินทางไปยังตลาดขายเครื่องเทศ แล้วทีมจะต้องเปิดกล่อง แล้วหาส่วนประกอบของชิชาภายในกล่องที่เต็มไปด้วยฟาง จำนวน 12 อัน แล้วใช้ทุกส่วนประกอบมาประกอบโดยมีชิชา 3 อันวางอยู่เป็นเครื่องนำทางให้เรียบร้อย ถ้าหากว่าทีมเหลือส่วนประกอบไว้ที่พื้นเพียงชิ้นเดียว ทีมจะไม่สามารถได้รับคำใบ้ต่อไปได้

ภารกิจเสริม
  • สำหรับจุดเริ่มต้นของเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องหยิบกระเป็ที่ล็อกอยู่ไปด้วย
  • ที่สวนน้ำแอตแลนติส ทีมจะต้องลื่นลงไปยัง ที่สไลด์เดอร์ที่ได้ชื่อว่าก้าวกระโดดแห่งความสุขของรีสอร์ต ที่มีความยาวกว่า 61 เมตร (200 ฟุต) และไหลลงไป 27.5 เมตร (90 ฟุต) ที่เอียงใกล้เคียง 90 องศา ผ่านอุโมงค์น้ำที่มีฉลามอาศัยอยู่ ที่ปลายสุด แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ในกรณีที่มีทีมต่อหลังอยู่ ทีมจะต้องลื่นลงผ่านสไลด์เดอร์ภายใน 2 นาที ถ้า 2 นาทีผ่านไปแล้วทีมยังไม่สามารถลื่นลงไปได้ ทีมจะต้องให้ทีมอื่นที่ต่อหลังลื่นลงไปก่อน

เลก 7 (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ → เนเธอร์แลนด์)

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดของอาคารมาร์ตินิ แล้วทำการนับระฆังของโบสถ์เป็นจำนวนที่ถูกต้อง
  • ดูไบ (ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ) ไป อัมสเตอร์ดัม , เนเธอร์แลนด์ (ท่าอากาศยานนานาชาติอัมสเตอร์ดัมสกิปฮอล์)
  • อัฟสลูทดิค (อนุสาวรีย์คลอเนลิส เลลี่)
  • โกรนินเกน (อาคารมาร์ตินิ)
  • เดอ-มาร์น (ดัตช์)
(กังหันลม) 
  • โกรนินเกน (ท่าเรือ)

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องขึ้นไปบนจุดสูงสุดของโบสถ์มาร์ตินี แล้วทำการนับจำนวนระฆังทั้งหมดในระฆังที่เป็นชุดแล้ว เมื่อทีมตอบจำนวนที่ถูกต้องแล้ว (จำนวนที่ถูกต้องคือ 62 ใบ) แก่คนตีชุดระฆังเป็นท่วงทำนองเพลงแล้ว เขาจะให้คำใบ้ต่อไปแก่สมาชิกในทีม ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างการเล่นของชาวนา (Farmer's Game) และการเต้นของชาวนา (Farmer's Dance) ซึ่งทั้ง 2 ทางแยกนี้ ทีมจะต้องสวมเครื่องแต่งกายชาวดัตช์ โดยมีชาย 1 ชุดและหญิง 1 ชุด เช่นชุด รองเท้าไม้เป็นต้น แล้วจะต้องปั่นจักรยานไปยังสถานที่ในการทำทางแยก โดยทีมที่เลือกการเล่นของชาวนา จะต้องถอดเครื่องแต่งกายเหลือเพียงกางเกงในหรือลอนจอน แล้วว่ายน้ำข้ามคลองเล็ก เพื่อไปหยิบชุดกอล์ฟของเล่น แล้วตีลูกบอลสีต่างๆ ให้ลงหลุมภายใน 8 ครั้งทั้งหมด 3 หลุม เมื่อทีมตีกอล์ฟลงหลุมครบแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกการเต้นของชาวนา จะต้องหาสถานที่จัดงานเทศกาล แล้วให้สมาชิกคนหนึ่งตีลูกให้ขึ้นไปสั่นกระดิ่ง ถ้าหากทีมไม่สามารถตีลูกให้สั่นกระดิ่งได้ ทีมจะต้องลองทำจนกว่าจะสามารถตีสั่นกระดิ่ง จากนั้น ทีมจะต้องเข้าไปในลานการเต้น แล้วร้วมเรียนรู้การเต้นท้องถิ่นแบบโฟล์คแดนซ์ แล้วทีมจะต้องลองเต้นท่ามกลางฝูงผู้คน หลังจากการเต้นแล้ว สมาชิกแต่ละคนในทีมจะต้องรับประทานปลาทะเลดองย่างเกลือกับหัวหอมคนละตัว เมื่อทีมรับประทานเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป

เลก 8 (เนเธอร์แลนด์ → สวีเดน)

ที่สวนสนุก Gröna Lund สมาชิกคนหนึ่งของทีมจะต้องขึ้นไปบน Fritt Fall เพื่อค้นหาลูกศรที่ชี้ถึงสถานที่ต่อไป

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ จัดเป็นสวิตซ์แบคของงานอุปสรรคอย่างมีชื่อเสียงในทางไม่ดี (การมาทำงานอุปสรรคอันก่อนของรายการดิ อะเมซิ่ง เรซ) จากเลก 3 ที่สวีเดนของดิ อะเมซิ่ง เรซ 6 นั่นเอง โดยในฤดูกาลที่ 6 จะแตกต่างเล็กน้อยโดยมีม้วนฟางอยู่ 270 กองแต่มีคำใบ้อยู่ 20 อันแต่ในเลกนี้จะมีม้วนฟางอยู่ 186 กองและมีคำใบ้อยู่ 7 อัน ซึ่งสมาชิกที่ทำอุปสรรค จะต้องแกะตาข่ายที่พันรอบม้วนฟาง แล้วกลิ้งม้วนฟางที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ 186 อัน เพื่อค้นหาธงสีเหลือง-แดงที่ซ่อนอยู่ 1 ใน 7 อันจาก 186 ม้วนฟาง (สำหรับในฤดูกาลที่ 6 นั้น มีคู่พี่น้องสาว ลีน่ากับคริสตี้ใช้เวลาในการหาคำใบ้ร่วมกว่า 10 ชั่วโมง) ก่อนที่จะเดินไปเข้าจุดหยุดพักในบริเวณใกล้เคียง ที่มีวงดนตรีท้องถื่นเล่นอยู่ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างไดนาไมต์ของโนเบล (Nobel Dynamite) กับตัวอักษรของไวกิ้ง (Viking Alphabet) โดยทีมที่เลือกไดมาไมต์ของโนเบล จะต้องเดินทางมายังเหมืองหินที่สค็อกลูซเซอร์ แล้วสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวให้เรียบร้อย (แว่นตานิรภัย หมวกนิรภัยและที่อุดหู) จากนั้นก็ขุดดินใส่เข้าในถุงแล้วก่อเป็นชั้นๆ เพื่อทำเป็นเกราะป้องกันตัวให้ตัวเอง แล้วจึงทำการระเบิดด้วยระเบิดไดนาไมต์ ที่ประดิษฐ์คิดค้นโดยอัลเฟรด โนเบล แล้วเดินไปยังบริเวณที่มีการระเบิด โดยจะพบเศษหินเศษปูน แล้วในบริเวณนั้นจะมีกล่องเหล็กที่บรรจุคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกตัวอักษรของไวกิ้ง จะต้องแปลรหัสข้อความบนหินรูที่เป็นภาษาไวกิ้ง ซึ่งสามารถแปลความไดว่า "ค้นหาชาวไวกิ้งที่ทรงพลัง" เพื่อที่จะได้รับคำใบ้ต่อไปของพวกเขา

ภารกิจเสริม
  • ที่สวนสนุก Gröna Lund สมาชิกหนึ่งคนภายในทีมจะต้องเล่นเครื่องเล่น Fritt Fall แล้วมองหาลูกศรเพื่อต้องหาสถานที่ตั้งของคำใบ้ต่อไป ซึ่งเป็นสถานที่เล่นเกมคาร์นิวัลบางอย่าง โดยสมาชิกที่ขึ้นนั้น ห้ามสูงเกินกว่า 6 ฟุต 4 นิ้ว เมื่อสมาชิกลงมาแล้ว ทีมจะต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้น แล้วเล่นเกมโยนห่วงให้เข้ากรวยสีแดง ซึ่งด้านล่างจะมีตัวโนมอยู่ แต่ว่ากรวยบางอันก็ไม่มีตัวโนมอยู่ ถ้าโดยนได้สำเร็จ ผู้ดูแลเกมจะมอบตัวโนมให้แก่ทีม โดยคำใบ้ต่อไปจะอยู่ภายใต้ตัวโนม และทีมจะต้องนำไปเข้ายังจุดหยุดพักด้วย

เลก 9 (สวีเดน → เอสโตเนีย)

บ้านทาลลินน์ของมัสพีเด มาจา เป็นสถานที่ทำงานอุปสรรคในเลกนี้

สำหรับงานเพิ่มเติมของแกรี่และแมทนั้น พวกเขาจะต้องหารถซาวน่าเคลื่อนที่ที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และอบซาวน่าไอน้ำเป็นระยะเวลา 5 นาทีกับคนท้องถิ่น ในทางแยกของเลกนี้นั้น ทีมจะต้องเลือกระหว่างเสิร์ฟ (Serve) กับสลิง (Sling) โดยทีมที่เลือกเสิร์ฟนั้น จะต้องเปลี่ยนชุเป็นชุดชั้นใน แล้วเลือกคู่ทีมชาย-หญิงที่สวมชุดว่ายน้ำมา 1 คู่ แล้วทำการแข่งขันเกมวอลเลย์บอลในโคลน เมื่อทีมทำคะแนนได้ 5 คะแนนในการแข่งขันกับท้องถิ่นแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกสลิงนั้น ทีมจะต้องสวมรองเท้าลุยโคลน แล้วเดินข้ามโคลน จากนั้นก็ใช้หนังสติ๊กยิงลูกผลไม้ให้โดนป้ายกวางมูซ เมื่อยิงโดนแล้วแผ่นกระดานที่ปิดกองกะหล่ำปลีก็จะหล่นลงมาพร้อมกับซองคำใบ้ต่อไป ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเดินเข้าไปในโบสถ์ แล้วขอเชิงเทียนจากผู้คนที่กำลังร่วมพิธีทางศาสนาอยู่ ซึ่งในเชิงเทียนนั้นก็จะมีหมายเลขห้องติดอยู่ด้วย แล้วสมาชิกจะต้องหาห้องหมายเลขนั้น โดยจะมีคนเฝ้าอยู่พร้อมกับม้วนกระดาษ 1 ม้วน จากนั้นสมาชิกจะต้องไขปริศนาเพื่อสืบหาข้อความที่อยู่ในม้วนกระดาษ โดยการใช้ไฟจากเชิงเทียนเผากระดาษ จนเกิดคำใบ้ว่า Pikk Hermann Tower Garden

ภารกิจเสริม
  • เมื่อทีมจะออกจากจุดเริ่มต้นของเลกนี้แล้ว ทีมจะได้รับพวงกุญแจจำนวนมากมาย พร้อมมากับคำใบ้ของพวกเขา และเมื่อทีมเดินทางมาถึงมัสพีเด มาจาแล้ว ทีมจะต้องหากุญแจดอกที่ถูกต้อง และสามารถเปิดประตูจากรูกุญแจบริเวณกำแพงได้ เมื่อไขกุญแจถูกลูกแล้ว ประตูจะส่งสัญญาณพร้อมกับถูกเปิดออก

เลก 10 (เอสโตเนีย → สาธารณรัฐเช็ก)

ปราสาทปราก เป็นจุดหยุดพักที่ 10 ของการแข่งขัน

สำหรับทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง เร็วและใจร้อน (Fast & Furious) กับ ช้าและใจเย็น (Slow & Steady) โดยทีมที่เลือกเร็วและใจร้อน จะต้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดรัดรูปและสวมหมวกกันน็อก แล้วทำการเรียนการฝึกพายเรือพายัคอย่างมืออาชีพ โดยการร่วมกันพายเรือคายัคไปตามสายน้ำเชี่ยวกราด แล้วพายเรือหลบหลีกเสาอันเป็นอุปสรรคในการพายเรือ ไปยังจุดที่มีธงสีเหลือง-แดงแขวนอยู่ ในกรณีที่ทีมทำเรือคว่ำก่อน ทีมจะต้องขึ้นมาบนฝั่ง แล้วกลับไปเริ่มต้นใหม่ ส่วนทีมที่เลือกช้าและใจเย็น จะต้องห้อยโหนสลิงลอยฟ้า แล้วใช้มือเคลื่อนไปตามเส้นสลิงเพื่อให้ถึงบริเวณที่มีธงแขวนอยู่ ซึ่งบริเวณของธงทั้ง 2 ทางแยกจะเท่ากัน ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องค้นหาเครื่องดนตรีแมนโดลิน ในเก้าอี้ที่นั่งของโรงละครการแสดงเอสเตท ซึ่งเป็นที่ที่ทำการแสดงครั้งแรกของโวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ทกว่า 6000 ตัว ซึ่งจะมีเครื่องดนตรีชนิดอื่นๆถูกซ่อนเป็นตัวลวงแก่สมาชิกอีกด้วย โดยเมื่อสมาชิกค้นพบแล้ว เขาหรือเธอจะต้องหานักร้องโอเปร่าชาย (ดอน โจวานนี) ที่ทำการร้องเพลงอยู่บนเวที เพื่อขอแลกคำใบ้ต่อไปจากเขา

ภารกิจเสริม
  • ที่จัตุรัสเมืองเก่า ทีมจะต้องหาผู้ชายที่นั่งอยู่ในรถ Vintage Praga ซึ่งเขาจะเป็นคนที่ให้คำใบ้ต่อไปแก่ทีม
  • หลังจากที่ทีมทำงานทางแยกเสร็จแล้ว ทีมจะต้องทราบให้ได้ว่าธงที่หยิบมานั้น กล่าวถึง Stavovské Divadlo หรือโรงละครการแสดงเอสเตท ซึ่งสถานที่ต่อไปที่ทีมจะต้องไปเยือน

เลก 11 (สาธารณรัฐเช็ก)

รูปปั้น ฟรานซ์ คาฟคา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสถานที่ทำงานอุปสรรคในเลกนี้

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ำทำอุปสรรคจะต้องค้นหาตัวอักษรภาษาอังกฤษ จากการรับเครื่องโทรศัพท์ในหอกว้างใหญ่ เมื่อสมาชิกรับโทรศัพท์เครื่องที่ถูกต้องแล้ว สมาชิกจะได้รับตัวอักษรจากผู้คนที่พูดผ่านสายมา เมื่อสมาชิกได้รับตัวอักษรครบแล้ว จากนั้นสมาชิกจะต้องเข้าไปในห้องของผู้ควบคุมดูแลสถานที่ เพื่อเรียงตัวอักษรลงในแบบสอบถามประวัติส่วนตัวด้านล่างสุด ที่มีช่องสี่เหลี่ยมใหญ่ 5 ช่องใหญ่ ให้ได้คำว่า FRANZ ซึ่งมาจากฟรานซ์ คาฟคา นักเขียนชาวยิว เมื่อสมาชิกเรียงถูกต้องแล้ว ผู้ดูแลจะประทับตราให้ว่า Kafka แล้วมอบคำใบ้ต่อไปแก่สมาชิก แต่ถ้าเรียงผิด ผู้ดูแลจะประทับตรากากบาทสีแดงแล้วมอบแบบสอบถามใหม่ให้ ส่วนงานเพิมเติมของไบรอันกับเอริก้านั้น พวกเขาจะต้องหาร้านที่ชื่อว่า M1 Lounge เพื่อทำการเตรียมและดื่ม Absinthe ซึ่งเป็นเครื่องดื่มท้องถิ่นที่ผสมแอลกอฮอล์ 70% กับพืชสมุนไพรหลายชนิดให้หมด 1 แก้วจึงจะได้รับอนุญาตให้สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ และทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างตำนาน (Legend) กับลาเกอร์ (Lager) โดยทีมที่เลือกตำนานจะต้องทาโคลนให้กับรูปปั้นโกเลมให้ทั่วตัว แล้วขนรูปปั้นนี้ไปยังโบสถ์ของศาสนายิวที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปยุโรป เมื่อคนที่ยืนรอหน้าโบสถ์พึงพอใจกับผลงานของทีม เขาจะมอบคำใบ้ต่อไปให้แก่ทีม ส่วนทีมที่เลือกลาเกอร์จะต้องนำแก้วเบียร์ 30 แก้วจากโรงเหล้า Pivovar a Restaurace "U Fleků" ไปตามเมืองอันสับสนวุ่นวายยังร้านบาร์ชื่อว่า Restaurace Kozička เมื่อทีมนำมาครบแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป

ภารกิจเสริม
  • ที่ไคโยเซ็นทรัม ทีมจะได้รับการบำบัดแบบองค์รวม โดยการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดชั้นใน แล้วจะต้องลงไปได้รับการบำบัดด้วยความเย็นในอุณหภูมิ -160 องศาเซลเซียส (หรือ -260 องศาฟาเรนไฮต์) เมื่อทีมได้รับการบำบัดเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป

เลก 12 (สาธารณรัฐเช็ก → สหรัฐอเมริกา)

สำหับเลกสุดท้ายของการแข่งขัน ทีมจะต้องเดินทางไปยังรีสอร์ทต่างๆในลาสเวกัส เช่น เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส, โรงแรมมันฑะเลเบย์, มิราจ และมอนติ คาร์โล รีสอร์ท

สำหรับอุปสรรคสุดท้ายในการแข่งขันนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องไต่เชือกลงมาจาก ชั้นดาดฟ้าของโรงแรมมันฑะเลเบย์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก โดยหันหน้าลงสู่พื้นดิน แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากผู้ควบคุมเชือกด้านล่าง

ภารกิจเสริม
  • ที่มิราจ สมาชิกคนหนึ่งจะต้องกระโดดบันจีจัมพ์ขึ้นไปหยิบช่อดอกไม้ โดยใช้สมาชิกอีกคนหนึ่งดึงตัวให้สปริงขึ้นไปหยิบช่อ เมื่อสมาชิกสามารถหยิบช่อดอกไม้ได้ ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากนักแสดงหญิง
  • หลังจากที่ทีมได้รับคำใบ้จากนักแสดงแล้ว ทีมจะต้องเดินทางไปยัง "บ่อนคาสิโนที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดในประเทศโมนาโก" ซึ่งทีมจะต้องตีความข้อความให้ได้ว่าข้อความดังกล่าวอ้างถึงมอนติ คาร์โล รีสอร์ทนั่นเอง
  • ที่มอนติ คาร์โล รีสอร์ท ทีมจะต้องนับจำนวนเหรียญโป๊กเกอร์หลากหลายสี ให้ได้จำนวน 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วนำไปแลกกับนักเล่นโป๊กเกอร์ ซึ่งเขาหรือเธอจะนับจำนวนเงินที่ได้ หากถูกต้อง ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปพร้อมเหรียญพิเศษ 1 เหรียญซึ่งมีมูลค่า 1,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ที่เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ทีมจะต้องหาห้องชุดที่ 88 เพื่อพบกับ เวย์เน่ นิวตัน ที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ ซึ่งเขาจะบอกสถานที่จุดสุดท้ายในการแข่งขัน นั่นก็คือบ้านของเขาเอง